หลังโดน บาเยิร์น ถล่มเละเทะคาบ้านไป2-7 จนสร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเองและทีมฟุตบอลอังกฤษในเวที UCL ด้วยการแพ้เป็นสถิติสูงสุดในการแพ้ในบ้านของตัวเองด้วยสกอร์ที่ขาดลอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์
หรืออาจจะเป็นเพราะผลกระทบจากการเป๋นัดชิงUCL เมื่อปีก่อนที่เจ้าตัวเคยเปรยๆว่าถ้าได้แชมป์อาจลาทีม แต่พอไม่ได้แรงจูงใจแรงกระตุ้นอื่นๆก็ดันหายไปเช่นกัน เหมือนสภาพจิตใจของพอชกับลูกทีมจะเสียขวัญยาวและกลายเป็นผลเสียต่อทีมต่อเนื่องมาในฤดูกาลนี้
ซึ่งในลีกเมื่อคืนก็เพิ่งออกไปพ่ายต่อน้องใหม่อยากไบรตันพลิกล็อคถึง 3-0 ทำให้ปีนี้ สเปอร์ส แพ้ไปแล้วถึง 3 นัดเมื่อเทียบกับทีมลุ้นพื้นที่UCL ด้วยกันอย่าง อาร์เซนอล เพิ่งแพ้ไป 1 นัด เชลซี แพ้ไป 2 นัด แมนฯยู แพ้ไป 3 นัดเท่ากัน
ซึ่งปีนี้เกมส์รับของสเปอร์ สดันมีปัญหาเสียประตูเยอะพอๆกับแนวรับของ อาร์เซนอล และเชลซี ทั้งๆที่เป็นแนวรับชุดเดิมที่พาทีมเข้าชิง UCL ปีก่อนด้วยซ้ำ
หลายปีก่อนในสมัยที่เป๊บ กวาดิโอล่า ยังคุม บาเยิร์น มิวนิค เขาเคยบอกว่าจะคุมทีมแค่ 3 ปีแล้วลาออก เพราะเขาบอกว่าระยะเวลา 3 ปี คือระยะเวลาที่เหมาะสมกับการคุมทีมของผู้จัดการทีมๆนึงในการพัฒนาทีมฟุตบอล หากปล่อยให้นาน 4-5 ปี ผู้จัดการทีมและนักเตะอาจจะหมดไฟและหมดแพชชั่นในการทำทีมและพัฒนาทีมแล้ว ส่วนพอชก็คุม สเปอร์ส มาหลายปีแล้วแต่ความสำเร็จสูงสุดก็ยังไม่มีแชมป์ระดับเมเจอร์เลยสักรายการ
นักเตะในทีมหลายคนก็เริ่มจะออกอาการให้ถอดใจหมดแพชชั่นให้เห็นยิ่งในเกมส์กับ บาเยิร์น พอโดนยิง 3-4 ลูกก็เริ่มใจไม่สู้กันแล้ว และมาต่อเนื่องอีกกับในนัดเล่นกับ ไบรตัน ยิ่งกับอีริคเซ่นจอมทัพของทีมที่จะหมดสัญญาในปีหน้า ฟอร์มหล่นหายไปดื้อลูกคิลเลอร์พาสหรือลูกยิงแถวสองหายไปเยอะในฤดูกาลนี้ แถมปีหน้าก็น่าจะย้ายไป รีลมาดริด ด้วยฟรีทรานเฟอร์สค่อนข้างจะ 90% ใจของเจ้าตัวลอยไปที่ ราชันชุดขาว แล้ว สมาธิกับทีมปัจจุบันก็ลดน้อยลง
จะทำอย่างไรให้ทีมและนักเตะมีความกระหายลุ้นแชมป์กลับคืนมา คำถามนี้ ผู้ที่จะตอบได้คือ พอช คนเดียวเท่านั้น
เขียนและเรียบเรียงโดย : วินนิ่งไหมสัส