ลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์ลีกปีนี้??

ลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์ลีกปีนี้??

หลังลิเวอร์พูล บุกไปเฉือนเชลซี 2-1 ทำสถิติชนะรวดในฤดูกาลใหม่ 6 นัด 18 คะแนนเต็ม และเก็บชัยชนะได้เป็นนัดที่ 15 ติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก ทำให้ยังคงรักษาแต้มทิ้งห่างแมนฯซิตี้ไว้ที่ 5 แต้มเช่นเคย

ลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์ลีกปีนี้

เกมนี้เชลซีมีโอกาสตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ซุดตุงตาข่าย แต่โดน VAR ปฏิเสธเนื่องจาก เมสัน เมาท์ ล้ำหน้าในจังหวะขึ้นเกมทางซ้ายไปเพียงนิดเดียว

เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ “สิงห์บลูส์” โดน “หงส์แดง” บุกไปนำก่อนในครึ่งแรก 2-0 จาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ซึ่งเป็นลูกสูตรตั้งเตะทั้งคู่

ส่วนครึ่งหลังเชลซีเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนมาได้ประตูตีไข่แตกนาที 71 จาก เอ็นโกโล ก็องเต้ แต่แม้จะกดดันได้เรื่อยๆในครึ่งหลัง แต่สุดท้ายเจาะเพิ่มไม่ได้ทำให้แพ้ไปในที่สุด ทำให้หงส์แดงยังรักษาบังลังก์จ่าฝูงไว้อย่างเหนียวแน่น

แถมสถิติที่เจอทีมใหญ่อย่างอาร์เซนอลและเชลซีหงส์แดงไม่พลาดเลยสักนัด คลอปปฺเริ่มเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากปีก่อนๆจึงเขี้ยวเข็นแท็คติคลูกทีมมากขึ้นเพื่อเก็บ3แต้ม ต่างจากแต่ก่อนที่จะดาหน้าบุกอย่างเดียวแม้จะใกล้หมดเวลา จนทำให้แต้มหล่นหายจากจะชนะกลายเป็นเสมอ

ลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์ลีกปีนี้

หลังเกมส์นี้มีรายละเอียดน่าสนใจหลากหลายจุด

1.นอกจากแลมพาร์ด จะทำสถิติพาทีมเสียประตูมากที่สุดในเกมลีกช่วง 6 นัดแรกแล้ว เขายังเป็นกุนซือคนแรกของทีมสิงห์ที่พาทีมออกสตาร์ตยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยความพ่ายแพ้ หลังปราชัยต่อบาเลนเซียมา 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ หนสุดท้ายที่สโมสรเสียประตูไปมากถึง 13 ลูกในลีกสูงสุด เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1978-79 ซึ่งในปีนั้นเชลซี จบฤดูกาลในตำแหน่งบ๊วย

2.มันคือครั้งแรกของสโมสรที่เสียประตูมากถึง 13 ลูกจาก 6 นัดช่วงออกสตาร์ตซีซั่นใหม่ แต่อย่าลืมว่านี่คือทีมที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ช เสริมนักเตะไม่ได้ แถมเสียนักเตะที่ดีที่สุดในทีมไป
แถมต้องมาเจอกับทีมที่อย่างน้อยก็เป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรปเมื่อฤดูกาลก่อนอย่างลิเวอร์พูล

3.เชลซีเสียโควต้าเปลี่ยนตัวถึง2ตำแหน่ง ในแนวรับทั้งคริสเตียนเซ่นและเอแมร์สัน ทำให้นักเตะเกมส์รุกอย่างพูลิซิส อดลงมาช่วยแก้เกมส์ เพราะแลมพาร์ดเลือกที่จะเปลี่ยนบาสซูอายี่ลงมาแทน แต่ที่จึงแทมมี่ที่เล่นดีควรเก็บเอาไว้ก่อน อย่างน้อยเปลี่ยนกลางออกคนนึงเล่นหน้าคู่น่าจะกดดันหลังของหงส์แดงได้เยอะกว่านี้ ที่จริงแทมมี่มีโอกาสหลุดเดียวไปยิงแต่จบสกอร์ไม่ได้เอง

4.เกมส์นี้เป็นเกมส์ที่สูสีกันมากออกได้ทั้งสามหน้า ครึ่งแรกเป็นของลิเวอร์พูล ส่วนครึ่งหลังเป็นของเชลซีที่ทำได้ดีกว่า ผู้รักษาประตูทั้งสองฝั่งทั้งเกป้าและอาเดรียนต่างโชว์ฟอร์มผลัดกันเซฟไปเยอะมากทั้งคู่ ไม่งั้นคงเห็นสกอร์มากกว่านี้

5.ลูกที่ก็องเต้ล็อคบอลหลบฟาบิญโญ่ก่อนแหวกเลี้ยงมาตรงกลางเซ็นเตอร์ โดยไม่เกรงใจฟานไดร์จและมาติปที่ยืนขวางอยู่ แถมเฮนเดอร์สันจะตามเข้ามาบล็อกก็ไม่ทันแล้ว เรียกได้ว่าประตูนี้ก็องเต้ทำได้ดีด้วยการเลี้ยงตะลุยแหวกเข้ามาทำประตูสุดสวยตีตื้นให้สิงห์บูล และน่าจะติดอันดับประตูยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ได้ด้วย

6.นัดนี้ฟานไดร์จและมาติปยังคงมีการสื่อสารที่ผิดพลาดให้เห็นบ้างหลังยืนและประกบตัวผิดจนเกือบโดนเชลซีลงโทษหลายครั้ง

7.กองหลังเชลซีพลาดลูกที่สองจากการไม่ยืนคุมนักเตะแบบ Man Mark ไปเลือกยืนคุมโซนแทน และหลายครั้งในปีนี้ก็เสียประตูจากการยืนคุมโซนนี้หลายครั้งแล้ว ลูกที่เสียวันนี้ถ้าดูจากภาพช้าความผิดเต็มๆไปลงที่อลอนโซ่เพราะปล่อยให้ฟีร์เมียโน่ยืนโล่งๆคนเดียว ส่วนลูกที่เทรน์อเล็กซานเดอร์อาโนล ถือว่ายิงได้ดีและเฉียบคม ต้องยกเครดิตให้ทางหงส์แดงที่ซ้อมแท็คติคลูกนี้มาดี

8.แลมพาร์ดถือว่าคุมทีมได้ดีแต่นักเตะชุดใหญ่ที่มียังเจ็บอยู่หลายคน จึงทำให้ 11 ตัวจริงยังไม่ครบลงสนามเสียที แต่ถือว่าบอลมีทรงมากกว่าโอเล่กุนนาร์โซชาร์ของแมนฯยูเยอะ

เขียนและเรียบเรียงโดย : วินนิ่งไหมสัส
ที่มาบางส่วน : soccersuck