หากดูสถิติการยิงหลังเกมส์เราอาจจะคิดว่าอาร์เซนอลกำลังเล่นกับบาร์ซ่าอยู่ แต่ไม่เลยทีมที่พวกเขาเจอคือ ทีมอันดับที่20ของลีก!!! ปืนโดนวัตฟอร์ดพับสนามบุกครึ่งหลังจนแทบจะเป็นบอลคนละชั้น ทั้งที่วัตฟอร์ดตอนนี้คือ ทีมอันดับที่20ของตารางอยู่ ณ ขณะนี้
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าบอลเปลี่ยนโค้ชมันมีผลต่อจิตใจและแรงกระตุ้นของลูกทีมจริงๆ หลังวัตฟอร์ดเพิ่งเปลี่ยนโค้ชใหม่แต่หน้าเก่าคนเดิมอย่าง กีกี้ ซานเชส ฟลอเรส มาแทน และนัดนี้เป็นนัดแรกของเขาในบ้านเสียด้วย
วัตฟอร์ดเริ่มต้นเกมส์ได้อย่างวูบวาบแต่ยังใช้โอกาสจบสกอร์ที่เปลืองมาก ทั้งๆที่ควรได้อย่างน้อย 1-2 ลูก จึงไม่แปลกใจที่พวกเขาจะหล่นมาอยู่อันดับสุดท้ายของตารางก่อนหน้านี้และเป็นอาร์เซนอลที่ฉวยโอกาสได้ทั้งที่ได้บุกน้อยกว่าขึ้นนำไป 2-0 ในครึ่งแรก ทั้งๆที่รูปเกมส์ไม่ได้เหนือกว่าเจ้าบ้านมากนัก แต่ปืนโตจบสกอร์ได้คมกว่าวัตฟอร์ดเท่านั้นเอง
ครึ่งหลังเจ้าบ้านยังคงโหมบุกเพื่อจะเอาประตูตีตื้นขึ้นมาก่อนและก็ทำได้สำเร็จ ด้วยการแจกโชคและการเล่นอย่างโง่ๆของแผงหลัง อย่างโซคราติสและดาวิดหลุยส์ ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่า คู่ต่อสู้รอยืนเพรสซิ่งอยู่ใกล้ๆเขตโทษก็พยายามจะฝืนเล่นต่อบอลกันหน้าเขตโทษมาเป็นปีที่2แล้ว ทั้งที่การเล่นแบบนั้นโคตรอันตรายต่อการเสียประตูเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งคลาสนักเตะของคุณไม่ถึงหรือไม่สามารถเล่นบอลด้วยเท้าได้ดีอย่างบาร์ซ่าก็ไม่ควรเสี่ยงเล่นแบบนั้น
และการเล่นแบบนี้มาตลอดเข้าปีที่สองสร้างความเสียหายให้กับทีมมานักต่อนักแล้ว ซึ่งสไตล์การเล่นแบบนี้ไม่เหมาะกับฝีเท้าของนักเตะอาร์เซนอล
นับตั้งแต่ที่ Opta ทำสถิติให้พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการในฤดูกาล 2003/04 นี่เป็นการโดนคู่แข่งส่องในเกมเดียวมากที่สุดของอาร์เซนอล กลับกันก็เป็นสถิติการส่องคู่แข่งมากที่สุดของวัตฟอร์ดด้วย!!! ซึ่งเป็นสถิติที่น่าตกใจมาก!!!
เมื่อนับรวม 5 นัดในลีกซีซั่นนี้ ทีมของ อูไน เอเมรี่ โดนคู่แข่งยิงไป 96 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นทีมที่โดนมากที่สุดใน 5 ลีกหลักของยุโรป โดยเป็นการตรงกรอบ 31 ครั้ง เสีย 8 ประตู!!!
เมื่อคุณเห็นสถิติเหล่านี้แล้วสิ่งที่ควรแก้ไขคือการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นแทนที่จะฝืนเล่นสไตล์เดิม เคยเขียนไปหลายครั้งแล้วว่าปัญหาเดิมๆของอาร์เซนอลก็คือแผงหลังทั้งแผงรวมถึงมิดฟิลด์ตัวรับที่คอยสกรีนบอลก่อนถึงแผงหลัง อาร์เซนอลจะไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลยหากยังใช้แผงหลังชุดนี้
ยิ่งคู่เซ็นเตอร์ที่ทั้งรั่วทั้งล่กทั้งรน ทั้งเข้าพรวด ไม่ได้เป็นแค่นัดสองนัด แต่เป็นกันมาเป็นปีๆแล้ว แถมปีนี้ได้พรวดตัวพ่ออย่างดาวิด หลุยส์มายืนตัวจริงสร้างความบรรลัยไปอีก ส่วนแบ็คขวาตัวสำรองของมิดเลนไนล์ ที่เกมส์รับขวาผ่านตลอดจริงๆไม่ว่าจะเล่นกับทีมระดับไหน อาร์เซนอลควรหาเซ็นเตอร์ระดับโลกอย่างฟานไดร์จเข้ามาช่วยยกระดับแผงหลังของทีม เพราะเท่าที่เห็นในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ กองหลังที่เล่นบอลด้วยเท้าได้ดี ขึ้นเกมส์ด้วยเท้าได้ดีเห็นจะมีแค่ ฟานไดร์จกับลาปอร์ต สองคนเท่านั้นที่ดูนิ่งกว่าใครเพื่อน
ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางตัวรับที่คอยสกรีนบอล อย่างชาก้า ไม่เหมาะที่จะเล่นลีกนี้ เพราะฝีเท้ายังไม่ถึงขั้นจริงๆ รวมถึงเก็นดูซี่ที่ชอบเล่นโชว์เหนือหน้าโกลประจำจนเกือบจะเสียประตูหลายครั้ง ซึ่งหากอยากแก้จุดนี้ควรหากองกลางตัวรับมืออาชีพจริงๆที่ไว้ใจได้แบบ ก็องเต้ โรดรี้ หรือฟาบิญโญ่มาคอยสกรีนบอลก่อนถึงกองหลัง
บางที่อูไนเอมรี่ อาจจะไม่เหมาะกับอาร์เซนอลและพรีเมียร์ลีก เพราะเข้าปีที่สองแล้วก็ยังไม่เห็นสไตล์การเล่นการเข้าทำที่ชัดเจน แต่ที่ชัดเจนที่สุดที่สไตล์การเล่นต่อบอลหน้าโกลจนเสียไปแล้วหลายประตูและอาจจะไม่จบแค่ประตูนี้ในวันนี้
สถิติอื่นๆที่น่าสนใจ
• เป็นครั้งแรกตั้งแต่ ธันวาคม ปี 1984(22 นัดทุกรายการ) ที่อาร์เซนอลเสมอกับวัตฟอร์ด
• นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วอาร์เซนอลเป็นทีมที่เสียประตูจากความผิดพลาดมากที่สุดในพรีเมียร์ โดยเสีย 14 ครั้ง มากกว่าทีมอื่นอย่างน้อย 2 ครั้งขึ้นไป
• นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วอาร์เซนอล เสียประตูจากจุดโทษมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกร่วมกับไบรท์ตัน ที่จำนวน 10 ครั้ง
• ดาวิด ลุยซ์ ทำฟาวล์เสียจุดโทษในพรีเมียร์ลีก 3 ครั้ง โดยเสียกับเชลซีครั้งเดียว(ตุลาคม 2011)จาก 160 นัด แต่เสียกับอาร์เซนอล 2 ครั้งจาก 4 นัด
• นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วอาร์เซนอลโดนคู่แข่งยิงตรงกรอบเกมเยือนพรีเมียร์ลีก 115 ครั้ง เป็นรองแค่เบิร์นลีย์ที่โดนไป 117 ครั้ง
• อาร์เซนอลโดนวัตฟอร์ตยิงไป 31 ครั้งในเกมนี้ มากกว่าในเกมที่พวกเขาเคยแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8-2, แพ้ลิเวอร์พูล 5-1, แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6-3 และ แพ้เชลซี 6-0
เขียนและเรียบเรียงโดย : วินนิ่งไหมสัส
ข้อมูล: Opta/soccersuck
